บทที่ 1 บทนำว่าด้วยเศรษฐศาสตร์มหภาค
เศรษฐศาสตร์มหภาค (Macroeconomic)
เศรษฐศาสตร์มหภาค (Macroeconomic) เป็นวิชาที่ว่าด้วยเรื่องราวหรือพฤติกรรมทางเศรษฐกิจในระดับกว้าง ซึ่งเป็นเรื่องราวของเศรษฐกิจในระดับส่วนรวมของประเทศ ของภูมิภาค จนถึงระดับโลก เช่น การศึกษาเกี่ยวกับผลผลิตโดยรวมของประเทศ หรือรายได้ประชาชาติ การจ้างงาน ระดับราคา พฤติกรรมการใช้จ่ายอุปโภคบริโภคของครัวเรือน การนำเข้า ส่งออก ดุลการค้า เป็นต้น
เศรษฐศาสตร์มหาภาคเป็นศาสตร์ที่ศึกษาตัวแปรต่างๆของเหตุการณ์ต่างๆที่มีผลกับเศรษฐกิจโดยรวม เช่น โครงสร้างและปรากฎการณ์ทางเศรษฐกิจระดับชาติ และนโยบายของภาครัฐที่ถูกใช้เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อปรากฎการณ์ทางเศรษฐกิจ
เศรษฐศาสตร์มหาภาค ในบทเรียนนี้จะเน้นการศึกษาในเรื่อง
- ทฤษฏีการกำหนดขึ้นของรายได้ประชาชาติ
- การเปลี่ยนแปลงรายได้ประชาชาติดุลยภาพ
- ขนาดการเปลี่ยนแปลงของรายได้ประชาชาติ
- การใช้เครื่องมือเชิงนโยบาย เช่น นโยบายการเงิน นโยบายการคลัง นโยบายรายได้ เพื่อควบคุมระดับกิจกรรมทางเศรษกิจ
ปัญหาเศรษฐกิจมหาภาค (Macroeconomic Issue)
ปัญหาในที่นี้ คือประเด็นที่เราให้ความสนใจ ในมุมมองของเศรษฐกิจมหาภาค
- ปัญหาการเติบโตอย่างมีดุลยภาพในระยะยาว
- ปัญหาวัฏจักรเศรษฐกิจ
- ปัญหาการว่างงาน
- ปัญหาความไม่มีเสถียรภาพของระดับราคา
- ปัญหาผลกระทบจากกระทบระบบโลกาภิวัตน์
- ปัญหามาตรฐานการดำรงชีพ
- ปัญหาการขาดดุลงบประมาณและดุลการค้า
- ปัญหาว่านโยบายรัฐจะสามารถปรับปรุงยกระดับฐานะทางเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้หรือไม่
ปัญหาการเติบโตอย่างมีดุลยภาพในระยะยาว
การเติบโตอย่างมีดุลยภาพภาพในระยะยาว หมายถึง สภาวะที่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง (real GDP)มีการเติบโตอย่างเสม่ำเสมอและยั่งยืน สอดคล้องกับกำลังทรัพกรของประเทศ
ในข้อนี้อาจารย์ได้ยกตัวอย่างการเติบโตโดยการนำทรัพยากรมาใช้อย่างล้างผลาญ ซึ่งทำให้ทรัพยากรนั้นหมดไปในอนาคต แต่ทำให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้น ว่าเป็นการเติบโตที่ไม่มีดุลยภาพ
ปัญหาวัฏจักรเศรษฐกิจ
คือปัญหาที่ว่าด้วยความผันผวนของเศรษฐกิจ ที่มีการขึ้นๆลงๆ ตามเวลาที่เปลี่ยนไป เป็นวัฏจักร เจริญรุ่งเรือง-ถดถอย-ตกต่ำ-ฟื้นตัว
ปัญหาการว่างงาน
เป็นปัญหาที่ว่าด้วยภาวะที่คนไม่มีงานทำ หรือมีการจ้างงานต่ำกว่ากำลังแรงงาน ทำให้มีผู้ไม่มีรายได้ ทำให้เป็นปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม
ปัญหาความไม่มีเสถียรภาพของระดับราคา
เป็นปัญหาที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจถดถอย ภาวะเงินเฟ้อเป็นภาวะที่เงินมีค่าน้อยลง ทำให้ต้องใช้เงินมากขึ้นในการซื้อสินค้าที่มีปริมาณและคุณภาพเท่าเดิม การเกิดเงินเฟ้อในอัตรสูงถือเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจที่กระทบต่อครัวเรือน
ปัญหาผลกระทบจากกระแสระบบโลกาภิวัตน์
ประเทศไทยมีระบบเศรษฐกิจแบบเปิด และมีสัดส่วนในภาคต่างประเทศสูงเมื่อเทียบกับ GDP ดังนั้นความผันแปรของสภาวะเศรษฐกิจโลกจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยค่อนข้างมาก
โลกาภิวัฒน์ มีลักษณะที่เป็นองค์ประกอบ 2 ประการ คือ
- การเชื่อมโยงถึงกันและกัน
- สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกสามารถแพร่ระบาดไปที่อืนๆ
โลกาภิวัฒน์ 3 ยุค
โลกาภิวัฒน์ ตามทัศนคติของ Tomas hi Frirdman ผู้เขียนหนังสือ The World is Flat ได้แบ่งออกเป็น 3 ยุคคือ
- ยุคที่ 1 (1492) ทำให้โลกขนาดใหญ่กลายเป็นขนาดกลาง เกิดขึ้นเมื่อมีการค้นพบทวีปอเมริกา และเส้นทางเดินเรือจากยุโรปสู่เอเชีย มีบุคคลสำคัญ 3 คนคือ
- Christopher Columbus ผู้เดินเรือจากยุโรปสู่อเมริกาเป็นคนแรก
- Americo Vespucio ผู้ค้นพบทวีปอเมริกา
- Vas co da Gama ผู้ค้นพบเส้นทางเดินเรือจากยุโรป ผ่านแหลม Good hope สู่ทวีปเอเชีย
- ยุคที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อมีการประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำ ทำให้เกิดการล่าอาณานิคม
- ยุคที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อมีการคิดค้น Internet และ ทำลายกำแพงเบอร์ลิน ทำให้ทั้งโลกเชื่อมถึงกันหมด ปัจจุบันอยู่ในยุคที่ 3
ปัญหามาตรฐานการดำรงชีพ
เป็นปัญหาที่ดกี่ยวกับมาตรฐานการดำรงชีพของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งไม่ได้ดีขึ้นตามการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศมากนัก เนื่องจากช่องว่างในการกระจายรายได้เพิ่มสูงขึ้น
ปัญหาการขาดดุลงบประมาณและดุลการค้า
เป็นปัญหาที่ว่าด้วยความไม่สมดุลระหว่างการใช้จ่ายเงินกับรายได้ ดุลงบประมาณหมายถึงความสมดุลระหว่างรายจ่ายกับรายได้ของภาครัฐ ซึ่งอาจวางแผนให้เกินดุลหรือขาดดุลได้ ตามแต่สถานการณ์ของประเทศ ส่วนดุลการค้านั้นหมายถึง ระดับของมูลค่าสินค้าที่ส่งอกไปขายกับสินค้าที่นำเข้า ซึ่งยิ่งเกินดุลมากเท่าไหร่ยิ่งป็นผลดี
ปัญหาว่านโยบายรัฐจะสามารถปรับปรุงยกระดับฐานะทางเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้หรือไม่
เป็นปัญหาที่ว่าด้วยการประเมินว่า นโยบายของภาครัฐที่นำมาผลักดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศนั้น จะมีผลกระทบอย่างไร ประสบความสำเร็จมากน้อยขนาดไหน นโยบายหลักๆที่ประเทศต่างๆนำมาใช้ ส่วนใหญ่จะเป็น นโยบายการเงิน(Monetary policy) กับนโยบายการคลัง (Fiscal policy)
ดุลยภาพทั่วไปของระบบเศรษฐกิจ (General Equilibrium) และตัวบ่งชี้ (Indecator) ต่างๆ
ดุลยภาพทั่วไป (General Equilibrium) หมายถึงสภานการณ์ที่เกิดดุลยภาพในส่วนสำคัญของระบบเศรษฐกิจครบทุกส่วน ซึ่งประกอบด้วย
- ภาคการผลิต (Product Market)
- ภาคตลาดแรงงาน (Labor Market)
- ภาคการเงิน (Money Market)
- ภาคต่างประเทศ (Forieng Market)
สำหรับกรณีที่เกิดดุลยภาพบางส่วน เราจะเรียกว่า Patial Equilibrium
ในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มหภาค มีการศึกษาทั้งสภาวะที่เกิดดุลยภาพ และวิธีการแก้ไขเมื่อไม่อยู่ในดุลยภาพ ซึ่งเครื่องมือหลักๆก็คือ นโยบายการเงิน นโยบายการคลัง และนโยบายรายได้
ภาคการผลิต
- ตัวแปรสำคัญในภาคนี้คือ ผลผลิตรวมของประเทศ (Total output) หรือที่เรียกว่า รายได้ประชาชาติ
- สถานการณ์ที่มีดุลยภาพคือ อุปสงค์รวมของประเทศเท่ากับอุปทานรวมของประเทศ
- กรณีที่ อุปสงค์มากกว่าอุปทาน จะทำให้เกิดภาวะเงินเเฟ้อ
- กรณีที่ อุปสงค์น้อยกว่าอุปทาน จะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ตัวแปรส่วนประกอบในภาคการผลิต
- ค่าใช้จ่ายในการบริโภคของครัวเรือน
- รายจ่ายในการลงทุนของหน่วยธุรกิจ
- รายจ่ายของภาครัฐบาลที่จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคและการลงทุน
- การส่งออก
- การนำเข้า
- การออมของหน่วยธุรกิจและครัวเรือน
- การออมของรัฐบาล
- อัตราภาษี
- ระดับราคา
ภาคตลาดแรงงาน
- ทั้งส่งผลกระทบ และได้รับผลกระทบจากภาคเศรษฐกิจอื่น เช่น ภาคการผลิต ภาคการเงิน ภาคการต่างประเทศ
- ภาวะดุลยภาพของภาคตลาดแรงงาน คือ อุปสงค์ต่อแรงงาน เท่ากับอุปทานของแรงงาน
- หากเกิดการขาดแคลนแรงงาน จะเกิดการขาดแคลนปัจจัยการผลิตในภาคการผลิต
- หากอุปทานของแรงงานมากกว่ากำลังการจ้างงาน จะทำให้เศรษฐกิจไม่โตเท่าที่ควร เกิดปัญหาความยากจน และขาดมาตรฐานการดำรงชีพ
ภาคการเงิน
- ตัวแปรสำคัญในภาคนี้คือ อุปสงค์ของเงิน อุปทานของเงิน และอัตราดอกเบี้ย
- ดุลยภาพ อยู่ตรงที่ อุปสงค์ของเงินเท่ากับอุปทานของเงิน ทำให้เกิดอัตราดอกเบี้ยดุลยภาพ
- ถ้าอุปสงค์มากกว่าอุปทาน อัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้น ถ้าสูงขึ้นมากเกินไปจะกระทบต่อการลงทุนและการบริโภค และอาจส่งผลสืบเนื่องต่อการจ้างงาน
ตัวแปรอื่นๆ ในภาคการเงิน
- บทบาทของสถาบันการเงิน ที่เกี่ยวข้องกับการระดมทุนและการให้สินเชื่อ
- บทบาทของเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ควบคุมดูแลนโยบายการเงิน เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย
- การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
- สถาบันการเงินระหว่างประเทศ
ภาคต่างประเทศ
- ดุลยภาพในภาคต่างประเทศคือ สถานการณ์ที่ดุลการชำระเงินของประเทศมีความสมดุล
- กรณีที่เกินดุล ไม่เป็นผลเสีย
- กรณที่ขาดดุล จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจส่วนอื่นๆ
- ตัวแปรอื่นๆ ในภาคต่างประเทศ
- ดุลบัญชีเดินสะพัด
- ดุลการค้า
- ดุลบริการ
- ดุลรายได้ (รายได้ที่คนไปทำมาหากินนอกปรเทศแล้วโอนกลับเข้ามา)
- ดุลเงินโอนและบริจาค
- การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ
- การเคลื่อนย้ายเงินทุนระยะสั้น (เก็งกำไรหุ้น หลักทรัพย์ต่างๆ)
- การเคลื่อนย้ายเงินทุนระยะยาว (เข้ามาลงทุนสร้างโรงงาน ผลิตสินค้า)
- อัตราแลกเปลี่ยน
- ดุลบัญชีเดินสะพัด
- ดุลการค้า
- ดุลบริการ
- ดุลรายได้ (รายได้ที่คนไปทำมาหากินนอกปรเทศแล้วโอนกลับเข้ามา)
- ดุลเงินโอนและบริจาค
- การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ
- การเคลื่อนย้ายเงินทุนระยะสั้น (เก็งกำไรหุ้น หลักทรัพย์ต่างๆ)
- การเคลื่อนย้ายเงินทุนระยะยาว (เข้ามาลงทุนสร้างโรงงาน ผลิตสินค้า)
- อัตราแลกเปลี่ยน
ภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector)
บางครั้งเรียกว่า ตลาดสินค้าหรือภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector) ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ
- ภาคการผลิต
- ภาคตลาดแรงงาน
คำศัพท์เพิ่มเติมในบทที่ 1
Fiscal cliff หมายถึงทางแยกทางการเงินที่เป็นภาวะวิกฤต หากตัดสินใจผิด ก็ลงเหว
PIIGS - หมายถึงประเทศในกลุ่ม EURO ที่ประสบปัญหาทางการเงิน 5 ประเทศคือ Portugal,Iceland,Italy,Greeks,Spain
PIIGS - หมายถึงประเทศในกลุ่ม EURO ที่ประสบปัญหาทางการเงิน 5 ประเทศคือ Portugal,Iceland,Italy,Greeks,Spain
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น